วันที่ 10 ก.พ. สำนักข่าวเกียวโดของญี่ปุ่น รายงานว่า ตำรวจควบคุมตัว นายนาโอคิ โยโซมิยะ อายุ 20 ปี นักศึกษาปี 2 คณะแพทยศาสตร์ มหาวิทยาลัยโชวะ ผู้ต้องสงสัยทำร้ายร่างกายผู้หญิงไทยจนเสียชีวิต ที่โรงแรมแห่งหนึ่งในกรุงโตเกียว โดยเหตุการณ์นี้เกิดขึ้นเมื่อวันที่ 18 ธ.ค.ปี 2561
เมื่อตำรวจไปถึงห้องพักโรงแรมก็พบร่างของหญิงชาวไทย (สงวนชื่อ)
นอนเปลือยหมดสติ ร่องรอยถูกทุบตีทั่วตัวนอนจมกองเลือด ส่วนนายโยโซมิยะ ผู้ต้องหาได้กระโดดลงจากหน้าต่างชั้น 5 ได้รับบาดเจ็บสาหัสกะโหลกร้าว ผู้ตายซึ่งมีอายุ 19 ปี ได้ไปทำงานในสถานบริการทางเพศแห่งหนึ่ง หลังจากไพูดคุยกับนาย โยโซมิยะ ก็พากันมาที่โรงแรมแห่งนี้ แล้วมีปากเสียงเกิดขึ้น หญิงสาวถูกทุบตีด้วยท่อเหล็กอย่างรุนแรงหลายแห่งตามร่างกาย รวมทั้งที่ศรีษะและใบหน้า จนเสียชีวิต
ทันทีที่นายโยโซมิยะ ออกจากโรงพยาบาลเมื่อวันเสาร์ที่ผ่านมา ตำรวจได้แจ้งข้อหา “ฆ่าคนตายโดยเจตนา” เขาได้ยอมรับกับตำรวจว่า ใช้ท่อนโลหะทุบตีเธออย่างรุนแรงจริง แต่ไม่ได้มีเจตนาฆ่าให้ถึงตาย จากนี้เขาจะถูกนำตัวไปคุมขัง ระหว่างรอสำนวนคดีเพื่อดำเนินการส่งฟ้องศาลต่อไป เบื้องต้นทราบว่า ระหว่างประชาชนจำนวนมากกำลังร่วมพิธีภายในอุโบสถในงานปิดทองฝังลูกนิมิต ก็มีเสียงปืนดังขึ้น 2 นัดเสียงดังสนั่น ผู้ร่วมพิธีพากันแตกฮือวิ่งหนีออกมา ก่อนพบร่างนายนิกร ถูกยิงเลือดโชก รวมทั้ง พระมหาประภาส มือปืนพยายามวิ่งหลบหนี แต่ชาวบ้านช่วยกันจับตัวไว้ได้
นายภาคิน ผู้ก่อเหตุรับสารภาพว่า มีเรื่องบาดหมางชกต่อยกับนายนิกร ที่ร้านอาหารแห่งหนึ่ง จากนั้นต่างคนก็ต่างขู่อาฆาตกันมาตลอด จนกระทั่งตนมาร่วมงานปิดทองฝังลูกนิมิต แล้วบังเอิญเจอกับนายนิกรภายในโบสถ์ จึงชกต่อยกันขึ้น ด้วยความแค้นจึงชักอาวุธปืนยิงใส่จนล้มคว่ำ ส่วนกระสุนอีกนัดพลาดไปโดนพระ
วันที่ 11 ก.พ. เวลา 00.05 น. เจ้าหน้าที่ตำรวจเมืองระนองรับแจ้งเหตุ มีคนถูกแทงบาดเจ็บบาดเจ็บ หน้าผับชื่อดัง ทวิน กลางเมืองระนอง บนถนนเรืองราษฎร์ ต.เขานิเวศน์ ผู้บาดเจ็บถูกแทงจำนวน 2 แผล ทราบชื่อต่อมาคือ นายสุพจน์ หรือ โกจ้าว วนิชพัฒน์ อดีต สท.เมืองระนอง และเป็นผู้ติดตามผู้สมัครพรรคภูมิใจไทย
สอบสวนปากคำผู้อยู่ในเหตุการณ์ ทราบว่าผู้ก่อเหตุ คือ นายณไกรสร ศรีสกุล หรือ สร พ่อค้าขายไก่ทอด ย่านถนนซอยภักดี ตลาดล่าง นายสรเดินมาที่หน้าทวินผับ และพูดคุยทักทาย กับ สท.จ้าว แต่แล้วจู่ๆ ก็ชักมีดออกมาแทง
จากการตรวจสอบภาพจากกล้องวงจรปิดหน้าผับ ปรากฏภาพคนร้ายจอดรถแล้วเดินมาหน้าผับ ที่สท.จ้าวเป็นผู้ดูแลร้านยืนอยู่ และมีการ์ดของผับ 3 คนอยู่ที่บริเวณด้านหน้า หลังจากพูดคุยสักครู่ ไม่ได้มีเหตุทะเลาะวิวาทอะไรกัน แต่นายสรชักมีดที่เหน็บติดตัวมา จ้วงแทงเข้าด้านหลังของสท.จ้าว 1 แผล และแทงเข้าใต้ซี่โครงหน้าอีก 1 แผล ก่อนจะวิ่งหนีไปบนถนนไปทางสามแยกกรุงไทยอย่างรวดเร็ว การ์ดผู้ดูแล 3 คน วิ่งติดตามไปไม่ทัน และต้องรีบกลับมาประคอง สท.จ้าว ขึ้นรถจักรยานยนต์ เพื่อรีบนำส่ง ร.พ.
เพื่อนบ้านที่รู้จัก บอกว่านายณไกรสรเคยมีอาการป่วยทางประสาทมาก่อน และเคยกินยารักษาจนอาการดีขึ้น มีอาชีพเป็นพ่อค้าขายไก่แดงชุบแป้งทอดขายในเวลากลางวันกับภรรยา สำหรับประวัติ นายสุพจน์ วนิชพัฒน์ เคยเป็นสท.เทศบาลเมืองระนอง มา 2 สมัย ปัจจุบันติดตามช่วยหาเสียงผู้สมัคร พรรคภูมิใจไทย
สยองขวัญ จ.ระยอง! วันเดียว “ศพหัวขาด” 2 ศพ ลอยเกยหาด 2 หาด
วันที่ 8 ก.พ. พบศพไม่มีศีรษะ 2 ราย ลอยมาติดชายหาดแม่รำพึงและชายหาดพีเอ็มวาย คาดว่าเสียชีวิตมาแล้วหลายวัน ศพแรกเป็นศพผผู้ชาย พบที่หาดแม่รำพึง บริเวณคอคล้ายถูกของมีคมตัด ร่างเปลือยไม่ใส่เสื้อผ้า เนื้อหนังเริ่มเปื่อยยุ่ยซีดขาวจนแทบจะหลุดออกมาเป็นชิ้น ข้อแขนมีรอยสักคล้ายตัวอักษรภาษาอังกฤษ 3 แถว คาดเสียชีวิตมาแล้วไม่ต่ำกว่าหนึ่งสัปดาห์
ส่วนศพที่ 2 ลอยมาเกยหาดพีเอ็มวาย ห่างจากจุดแรก ประมาณ 10 กม. เป็นศพผู้ชาย ไม่มีศีรษะ ใส่กางเกงในสีดำเพียงตัวเดียว สภาพศพเปื่อยยุ่ยจนหนังเริ่มหลุดร่อน โดนเฉพาะช่วงคอลงมาเนื้อเปื่อยหลุดออกจนเห็นกระดูก คาดเสียชีวิตมาแล้วไม่ต่ำกว่า 10 วัน
เวลา 21.30 น. วันที่ 6 ก.พ. เจ้าหน้าที่ตำรวจสภ.บางเสาธง สมุทรปราการ รับแจ้งชายถูกแทงด้วยอาวุธมีดเสียชีวิต ที่บริเวณปากทางเข้านิคมบางกอกฟรีเทรดโซน ต.บางเสาธง ที่เกิดเหตุพบร่าง นายกรวีร์ จำปารุณ อายุ 19 ปี ถูกของมีคมแทงเข้าที่บริเวณชายโครงข้างซ้าย 1 แผล นอนหมดสติหายใจรวยริน ก่อนเสียชีวิตในเวลาต่อมา
ผู้ก่อเหตุคือ นายสุชาติ หรือเบียร์ อาจอุดม อายุ 39 ปี สาวประเภทสอง ชาวอุดรธานี ถูกจับพร้อมของกลางมีดปลายแหลมยาวประมาณ 19 เซนติเมตร ให้การรับสารภาพว่า ได้มีปากเสียงกับเจ้าหน้าที่รักษาความปลอดภัยของบริษัท DHL ที่ตนทำงานอยู่ และเจ้าหน้าที่รักษาความปลอดภัยคนดังกล่าวได้โทรศัพท์เรียกพรรคพวกมาดักทำร้ายตน
กระทั่งเลิกงาน เมื่อตนขี่รถจักรยานยนต์มาถึงหน้าป้อมยามที่เกิดเหตุ ได้มีชาย 2 คนขี่รถจักรยานยนต์มาปาดหน้าก่อนที่ชายวัยรุ่นทั้งสองจะลงจากรถและเข้ามาทำร้ายตน ด้วยความกลัว จึงได้หยิบเอามีดที่พกติดตัวไว้มาต่อสู้และแทงถูกนายกรวีร์ ไป 1 ครั้ง ผู้ตายวิ่งหนีออกมาล้มลงที่บริเวณปากทางเข้านิคมบางกอกฟรีเทรดโซน ส่วนพวกที่เหลือได้วิ่งหลบหนีไป เบื้องต้นเจ้าหน้าที่ได้แจ้งข้อกล่าวหาว่า ฆ่าผู้อื่นตายโดยเจตนา และพกพาอาวุธมีดมาบนทางสาธารณะในเมืองหมู่บ้านโดยไม่มีเหตุอันควร ก่อนควบคุมตัวพร้อมของกลางส่งพนักงานสอบสวน สภ.บางเสาธง สมุทรปราการ เพื่อดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป
แนะนำ : เคล็ดลับต่างๆ | เว็บรวมวิธีต่างๆ How to | จัดอันดับซีรีย์ | รีวิวครีม