ศุภชัย ท้วงอย่าด้อยค่า ซิโนแวค ชี้คนในสภาฯ ฉีดล็อตแรกไปเห็นสุขสบายดีกันอยู่

ศุภชัย ท้วงอย่าด้อยค่า ซิโนแวค ชี้คนในสภาฯ ฉีดล็อตแรกไปเห็นสุขสบายดีกันอยู่

อภิปรายไม่ไว้วางใจ ศุภชัย ใจสมุทร ส.ส.พรรคภูมิใจไทย ประท้วงอย่าด้อยค่าวัคซีน ซิโนแวค หวั่นคนที่ฉีดไปแล้วหวาดกลัวเพราะคำอภิปรายของ ส.ส. นายศุภชัย ใจสมุทร สมาชิกสภาผู้แทนราษฎร (ส.ส.) แบบบัญชีรายชื่อ พรรคภูมิใจไทย ลุกขึ้นประท้วงนายประเสริฐ จันทรรวงทอง ส.ส. จ.นครราชสีมา เขต 3 พรรคเพื่อไทย ระหว่างการ อภิปรายไม่ไว้วางใจ เมื่อวันอังคารที่ 31 ส.ค.64 ระบุ ผู้อภิปรายด้อยค่าวัคซีน ซิโนแวค ทั้งที่องค์การอนามัยโลก (WHO) ให้การรับรอง พร้อมยกคนในสภาฯ ฉีดล็อตแรกไปก็ยังสุบสบายดีกันอยู่

โดยขณะที่ นายประเสริฐ กำลังอภิปายถึงการจัดซื้อและประสิทธิภาพของวัคซีน ซิโนแวค 

รวมถึงมีกสนพาดพิงองค์กรและบุคคลภายนอก นายศุภชัย ได้ลุกขึ้นประท้วง การที่ผู้อภิปรายได้กล่าวถึงบุคคลภายนอก อย่างเช่นผู้ผลิตวัคซีน ซิโนแวค ซึ่งเป็นการพูดเพื่อจะไป “ด้อยค่า” ว่าเป็นของที่ไม่ดี มีผลกระทบอย่างรุนแรง อีกทั้งยังเป็นการกล่าวที่ผิดข้อบังคับ ข้อ 69 คิดว่าผู้ประท้วงไม่สามารถอภิปรายในลักษณะนี้ได้

ประการต่อมา นายศุภชัย ระบุว่า ผู้อภิปรายได้ใช้ถ้อยคำกล่าวถึงบุคคลภายนอกเช่น องค์การเภสัชกรรม (อภ.) ค้าความตาย เป็นการอภิปรายที่ไม่ชอบต่อข้อบังคับ อยากให้นายชวน หลีกภัย ประธานสภาผู้แทนราษฎร ช่วยวินิจฉัยและกำชับให้ผู้อภิปรายระมัดระวังเรื่องนี้ด้วย

จากนั้น นายศุภชัย ก็ได้ลุกขึ้นประท้วงอีกครั้ง หลังจากนายประเสริฐ อภิปรายว่า การจัดซื้อ ซิโนแวค ไม่ใช่แบบจีทูจี โดย ส.ส.พรรคภูมิใจไทย แจงว่า สิ่งที่นายประเสริฐอภิปรายชักจะเลยเถิดไปมาก ทำให้สภาฯ เสียหาย และสิ่งที่ค่อนข้างเป็นห่วง คือ วันนี้ประชาชนฉีดวัคซีน ซิโนแวค ไปเยอะมาก และเรามีข้อมูลว่า ซิโนแวคดี WHOก็รับรองซิโนแวค

แต่ผู้อภิปรายไม่ไว้วางใจกำลังจะด้อยค่ามันไปอีกแล้ว และจะทำให้ประชาชนที่ฉีดวัคซีน ซิโนแวค ไปแล้วเกิดอาการตกใจ เกิดอาการหวาดกลัวจากถ้อยคำของ ส.ส. ที่ได้อภิปรายไป จริงๆในสภาฯ นี้คนที่อายุต่ำกว่า 60 ปี ล็อตแรกฉีดซิโนแวคกันทั้งนั้น ก็เห็นยังสุขสบายดีกันอยู่

ด้าน นายพิเชษฐ์ เชื้อเมืองพาน ส.ส.เชียงราย พรรคเพื่อไทย ก็ได้ประท้วงโดยกล่าวว่า “เรื่องของการอภิปรายไม่ไว้วางใจ ถ้าไม่ให้พูดถึงบุคคลภายนอกแล้วจะเอาอะไรมาพูด ผู้อภิปรายรับผิดชอบทุกคำพูดของตัวเอง ถ้ามีการฟ้องร้อง ผู้อภิปรายต้องรับผิดชอบทุกประเด็น ดังนั้นการอภิปรายไม่ไว้วางใจ ถ้าไปแตะบุคคลอื่นไม่ได้ ก็ไม่สามารถทำให้การอภิปรายไม่ไว้วางใจครั้งนี้สมบูรณ์ขึ้นได้”

ก่อนที่นายชวน ประธานสภาฯ จะวินิจฉัยว่าคำประท้วงของนายพิเชษฐ์ ไม่มีเหตุผล น้ำหนักพอที่จะเปลี่ยนแปลงคำเตือน ที่ให้นายประเสริฐ อภิปรายให้อยู่ในกรอบข้อบังคับ ทั้งนี้ไฮไลท์ในการอภิปรายไม่ไว้วางใจของนายประสเริฐ คือ การแฉเอกสารส่วนต่างในการจัดซื้อวัคซีน ซิโนแวค ถึงกว่า 2 พันล้านบาท

เพื่อไทย แฉ สธ. ยื่นเสนอเข้า COVAX แต่ถูก ประยุทธ์-อนุทิน ขวาง

ประเสริฐ จันทรรวงทอง ส.ส. จาก พรรคเพื่อไทย ได้ออกมาซักฟอก ประยุทธ์ และ อนุทิน ว่าเป็นผู้ขัดขวางไม่ให้ไทยเข้า COVAX แม้ สธ. จะแนะให้ร่วมก็ตาม เพจเฟซบุ๊กของ พรรคเพื่อไทย ได้โพสต์ข้อความซึ่งเป็นการอภิปรายไม่ไว้วางใจ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี และ นาย อนุทิน ชาญวีรกูล รัฐมนตรีกระทรวงกลาโหม ว่าทั้งคู่เป็นคนกีดกันไม่ให้ประเทศไทยเข้าร่วมโครงการ COVAX ซึ่งเป็นโครงการบริจาควัคซีนขององค์การอนามัยโลกหรือ WHO

โดยทางเพจระบุว่า “ประเสริฐ จันทรรวงทอง ส.ส. นครราชสีมา และเลขาธิการพรรคเพื่อไทย จัดหนักในวันแรกของการเปิดอภิปรายไม่ไว้วางใจในประเด็น “การบริหารจัดการโรคระบาดไวรัสโควิด-19 ผิดพลาด ล้มเหลว อีกทั้งยังทำการจัดซื้อวัคซีนอย่างไม่สุจริต” จนส่งผลให้ประชาชนได้รับความเดือดร้อนในทุกหย่อมหญ้า โดยตลอดระยะเวลาที่โรคระบาดเข้ามายังประเทศไทย ปัจจุบันมีผู้ติดเชื้อสูงถึง 1,190,063 ราย และมีผู้เสียชีวิตสะสมสูงถึง 11,399 ราย (ข้อมูลวันที่ 31 สิงหาคม 2564)

กลายเป็นประเด็นคำถามและข้อสงสัยเกิดขึ้นอยู่ในสังคมว่าเหตุใด ประชาชนคนไทยถึงไม่ได้รับวัคซีนที่มีประสิทธิภาพและมีคุณภาพ และเพราะอะไรประเทศไทยถึงตกขบวนโครงการ COVAX ขณะที่ประเทศเพื่อนบ้านประเทศไทย 7 ประเทศได้เข้าร่วมโครงการกันทั้งสิ้น ?

ซึ่งข้อสงสัยดังกล่าว ประเสริฐอธิบายว่า ความจริงแล้วกระทรวงสาธารณสุขได้ยื่นหนังสือแสดงความจำนงเข้าร่วมโครงการ COVAX แล้วตั้งแต่วันที่ 9 กรกฎาคม 2563 อย่างไรก็ดี พลเอกประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี กลับมีเจตนาที่จะไม่เข้าร่วมโครงการ COVAX ตั้งแต่ได้รับหนังสือตั้งแต่ต้น โดยอ้างเหตุผลมากมาย ตามที่ประชาชนรับทราบกันทั่วไปในสื่อต่างๆ ซึ่งมองได้ว่าอาจสุ่มเสี่ยงต่อการหลอกหลวงประชาชน

โดยประเสริฐ ได้แสดงหลักฐานเป็น “ข้อสั่งการนายกรัฐมนตรี” ที่ให้นโยบายต่อกระทรวงสาธารณสุข และกระทรวงต่างประเทศในการเข้าร่วมโครงการ COVAX โดยคำนึงว่า ประเทศไทยมีความเข้มแข็ง ด้านสาธารณสุข และในเนื้อหาดังกล่าวยังเขียนชัดว่า ‘มุ่งให้ไทยเป็นฐานผลิตวัคซีนส่งออกไปขายต่างประเทศทั่วโลก’ โดยถือเป็นนโยบาย ‘วัคซีนเป็นสินค้าสาธารณะ (Global Public Goods)’ ฟ้องชัดว่า พลเอกประยุทธ์ไม่ได้คำคำนึงถึงชีวิตของประชาชนในประเทศก่อน ซึ่งถือเป็นการตัดสินใจที่ผิดพลาด

นอกจากนี้ ประเสริฐ ยังกล่าวต่ออีกว่า พลเอกประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี และอนุทิน ชาญวีรกูล รัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุข มีความพยายามกีดกันและสั่งห้ามภาคเอกชนนำเข้าวัคซีนทางเลือกมาตั้งแต่ปีที่ผ่านมา

แนะนำ : เคล็ดลับต่างๆ | เว็บรวมวิธีต่างๆ How to | จัดอันดับซีรีย์ | รีวิวครีม